กบข. เตือน ขรก.ตัดสินใจรอบคอบ ก่อนออกไปรับบำนาญ ยืนยันผลตอบแทนกองทุนสูงกว่าดอกเบี้ย

Print Friendly

นายสมบัติ นราวุฒิชัย   เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า หลังจากได้เปิดให้ข้าราชการสมาชิกกองทุน กบข. สมัครกลับไปรับเงินเดือนบำนาญเพื่อให้ตัดสินใจได้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ขณะนี้ทยอยส่งเอกสารไปให้ข้าราชการแล้ว 1 ล้านราย จึงต้องการให้ข้าราชการตัดสินใจให้รอบคอบ หลังจากเห็นตัวอย่างข้าราชการ 10 ราย ได้ตัดสินใจกลับไปรับบำนาญ

เมื่อพบว่าเมื่อออกเกษียณอายุราชการจะได้รับบำนาญและเงินก้อนประมาณ   7 แสนบาทถึง 1 ล้านบาท จึงต้องการกลับไปเข้าเป็นสมาชิก กบข.เหมือนเดิม แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ห้ามเปลี่ยนใจเมื่อได้ตัดสินใจออกจากสมาชิก กบข.แล้ว จึงต้องการแนะนำให้ข้าราชการสมาชิก กบข.ตัดสินใจให้รอบคอบ เนื่องจากผู้ได้รับประโยชน์ดีที่สุด คือ กลุ่มข้าราชการที่มีอายุราชการตั้งแต่ 40-50 ปี ซึ่งจะเป็นกลุ่มข้าราชการทหาร ตำรวจ เพราะนับอายุราชการตั้งแต่ศึกษาเป็นนักเรียนทหาร ตำรวจ และเป็น กลุ่มที่ได้รับอายุราชการทวีคูณจากกรณีไปรับราชการในถิ่นทุกันดาน

หากคำนวณแล้วได้รับเงินเดือนบำนาญเพิ่มจากเดิม 15,000 บาทต่อเดือน นับว่าคุ้มในการกลับไปรับบำนาญ แต่หากได้รับเงินบำนาญเพิ่มเพียงไม่กี่พันบาท ต้องการให้คิดอย่างรอบคอบ ยืนยันว่าการแก้ไขกฎหมาย กบข.ไม่ได้เป็นการเอาใจทหาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงกว่าราชการกลุ่มอื่น แต่เป็นการสานต่อการดำเนินการของราชการชุดที่ผ่านมา และกลุ่มข้าราชการตำรวจที่มีอายุราชการทวีคูณจำนวนมากยังได้รับประโยชน์สูงเช่นกัน

สำหรับผลตอบแทนของกองทุน กบข.ในปี 57 แม้หุ้นตกนับร้อยจุด แต่กองทุน กบข.ยังให้ผลตอบแทนมากกว่าร้อยละ 6 และยังสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 4  จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 1.75  เมื่อหักอัตราเงินเฟ้อแล้ว ส่วนแนวทางการลงทุนเพื่อหาผลตอบแทน เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับสมาชิกกองทุน กบข. ยืนยันว่าผลตอบแทนเข้ากองทุนจะสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 3 ในส่วนของปี 58 คาดว่าจีดีพีขยายตัวประมาณร้อยละ 3-4.5 บริษัทจดทะเบียนน่าจะทำกำไรได้สูงกว่าร้อยละ 10 โดยกำชับให้ทีมพิจาณาแผนการลงทุนตัดสินใจลงทุนในด้านต่างๆอย่างรอบคอบ เพื่อดูแลสมาชิกกองทุน กขบ.

ที่มา : มติชน

krurayong

ผู้เขียน: krurayong

สุธาราทิพย์ แสงสุวรรณ เป็นที่ปรึกษาและติดยาเสพติดอายุ 31 ปีที่โรงพยาบาลศรีวิชัย เธอสำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2553 เธอทำงานกับทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่เพื่อจัดการกับปัญหาการเสพติดและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและแอลกอฮอล์ ในเวลาว่างของเธอเธอมีส่วนร่วมในชมรมละครของชุมชนท้องถิ่น