สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย มารายงานตัว ในวันที่ 15 ธันวาคม 2557 เวลา 09.00-09.30 น. ณ ห้องประชุมจินดาอินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 จำนวน 34 อัตรา 12 กลุ่มวิชา
- กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 7 อัตรา
- กลุ่มวิชาภาษาไทย จำนวน 2 อัตรา
- กลุ่มวิชาสังคมศึกษา จำนวน 1 อัตรา
- กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 6 อัตรา
- กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ จำนวน 2 อัตรา
- กลุ่มวิชาปฐมวัย จำนวน 9 อัตรา
- กลุ่มวิชาคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 อัตรา
- กลุ่มวิชาพลศึกษา จำนวน 1 อัตรา
- กลุ่มวิชาดนตรีไทย จำนวน 2 อัตรา
- กลุ่มวิชานาฏศิลป์ จำนวน 1 อัตรา
- กลุ่มวิชาประถมศึกษา จำนวน 1 อัตรา
- กลุ่มวิชาศิลปะ จำนวน 1 อัตรา
>> รายละเอียด <<
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย มารายงานตัว ในวันที่ 15 ธันวาคม 2557 ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2 จำนวน 12 อัตรา 5 กลุ่มวิชา ดังนี้
- กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 3 อัตรา
- กลุ่มวิชาภาษาไทย จำนวน 1 อัตรา
- กลุ่มวิชาปฐมวัย จำนวน 3 อัตรา
- กลุ่มวิชาประถมศึกษา จำนวน 3 อัตรา
- กลุ่มวิชาคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 อัตรา
สพป.สุพรรณบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย จำนวน 10 อัตรา 5 กลุ่มวิชา
>> รายละเอียด <<
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
สพป.สระบุรี เขต 2 เรียกบรรจุแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ.2557 จำนวน 6 กลุ่มวิชา รวม 26 ตำแหน่ง ในวันที่ 15 ธันวาคม 2557
สพป.สระบุรี เขต 2 เรียกบรรจุแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้ ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ปี พ.ศ.2557 จำนวน 6 กลุ่มวิชา รวม 26 ตำแหน่ง ในวันที่ 15 ธันวาคม 2557
รายละเอียด บัญชีตำแหน่งว่าง ,รายชื่อเรียกบรรจุ ,เอกสารรายงานตัว ,สรุปการใช้บัญชี
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 จำนวน 10 อัตรา ในสาขาวิชาเอกดังนี้
- กลุ่มวิชาสังคมศึกษา จำนวน 4 อัตรา ลำดับที่ 11, 12, 13, 14
- กลุ่มวิชาการศึกษาปฐมวัย จำนวน 2 อัตรา ลำดับที่ 17, 18
- กลุ่มวิชานาฏศิลป์ จำนวน 1 อัตรา ลำดับที่ 5
- กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ จำนวน 3 อัตรา ลำดับที่ 25, 26, 27
ทั้งนี้ ได้มีหนังสือเรียกตัวไปยังผู้สอบแข่งขันได้เรียบร้อยแล้ว และให้มารายงานตัว เพื่อเลือกโรงเรียนในวันที่ 12 ธันวาคม 2557 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมคลองเกลือรวมใจ สพป.นนทบุรี เขต 2
>> รายละเอียด <<
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองเรื่องราวร้องทุกข์ ร้องเรียน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมีนางรัตนา ศรีเหรัญ รองเลขาฯ กพฐ.เป็นที่ปรึกษา และนายชูชาติ ทรัพย์มาก ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านบริหารทรัพยากรบุคคลและนิติการ เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรอง พิจารณารับเรื่องราวราวร้องทุกข์ ร้องเรียน ติดตามผลการดำเนินการและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา โดยแบ่งเรื่องร้องเรียนออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 เรื่องร้ายแรง ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบ หรือมีการร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อาทิ กรณีสร้างสนามฟุตซอล เป็นต้น ประเภทที่ 2 เรื่องทั่วไป อาทิ ครูร้องเรียน ผอ. หรือ รร. ร้องเรียนกรรมการคุมสอบ การร้องเรียนภายในโรงเรียน ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มีการลงชื่อผู้ร้องเรียน และประเภทสุดท้าย บัตรสนเท่ห์ ซึ่งที่ผ่านมา สพฐ.มักไม่ค่อยนำมาพิจารณา แต่ในครั้งนี้จะต้องขอให้คณะกรรมการจัดทำระบบกลั่นกรองว่าเรื่องใดควรดำเนินการแบบใด
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ สพฐ.ต้องตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เพราะที่ผ่านมา สพฐ.ยังจัดการกับปัญหาที่ได้รับเรื่องร้องเรียนไม่ดีเท่าที่ควร เพราะการดำเนินการต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน เริ่มตั้งแต่เขตพื้นที่การศึกษา สพฐ. รมว.ศึกษาธิการ จนไปถึงสำนักนายกฯ แต่ละขั้นตอนส่วนใหญ่จะใช้เวลาดำเนินการตรวจสอบนาน ขณะที่แต่ละวันมีผู้ร้องทุกข์จำนวนมากวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 เรื่อง ส่วนใหญ่ก็เป็นประเด็นร้องเรียนผู้บริหารระดับเขตพื้นที่ ผู้บริหารโรงเรียน และครู เพราะฉะนั้นตนจึงต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้เข้ามาจัดการกับปัญหาต่างๆ เหล่านี้ คัดกรองและให้ความเห็นแก่ตนว่าเรื่องใดสำคัญที่ต้องเร่งจัดการเป็นพิเศษ
เลขาฯ สพฐ.กล่าวว่า ล่าสุดมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่จังหวัดหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ซึ่งจะมีการแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กในพื้นที่ แต่ปรากฏว่ามีการร้องเรียนว่ามีการเรียกรับเงินจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีหน้าที่ทำโพยได้เรียกรับเงินรายละ 5 แสนบาท หากใครให้ก็จะจัดให้ลงตามโพยที่กำหนด แต่ปรากฏว่าผู้บริหารโรงเรียนที่ประสงค์จะย้ายได้อัดเทปการเรียกรับเงินไว้ และนำเทปไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ จากนั้นเรื่องได้ถูกร้องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด รมว.ศึกษาธิการ และ สพฐ. กรณีนี้คณะกรรมการชุดนี้ได้วิเคราะห์และให้ความเห็นว่าส่งผลกระทบต่อองค์กร ทำให้ สพฐ.เสียหาย ควรดำเนินการตามกฎหมาย และเท่าที่ได้ฟังเสียงในเทป ดูเหมือนว่าจะมีการทำแบบนี้มานาน เวลานี้ได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะรายงานผล จากนั้นตนจะสั่งการให้ดำเนินการแจ้งความในนาม สพฐ.ด้วย เพราะทำให้องค์กรได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันจะแจ้งให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปลดบุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง.
ที่มา : ไทยโพสต์
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศธ. เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดปีการศึกษา 2557-2558 เป็นปีแห่งการดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองนักเรียน และจัดเยี่ยมบ้านนักเรียนปีละ 2 ครั้ง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ให้คำปรึกษา สงเคราะห์นักเรียนที่อยู่ในครอบครัวด้อยโอกาส ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักเรียนในด้านต่างๆ และพัฒนาเครือข่ายผู้ปกครอง ชุมชน
รมช.ศธ. กล่าวว่า ได้มอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สถานศึกษาในสังกัดกว่า 30,000 แห่ง พัฒนางานและเครือข่ายระบบการช่วยเหลือนักเรียนตามขั้นตอน ได้แก่ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล จากการศึกษาแฟ้มประวัติ และการเยี่ยมบ้านเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน โดยการวิเคราะห์แบ่งเป็นกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มมีปัญหา การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียน โดยกระบวนการจัดกิจกรรมโฮมรูม และการประชุมผู้ปกครองชั้นเรียน
ดำเนินการในครั้งที่ 1 ไปแล้วเมื่อเดือนส.ค. และครั้งที่ 2 จะจัดภายใต้แนวคิด “ธันวาคม เดือนแห่งการติดตามผลการเยี่ยมบ้านนักเรียน” เพื่อสนองพระราชปณิธาน ด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนมีการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ และเฉลิมพระเกียรติในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 87 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2557
ที่มา : ข่าวสด
รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยความคืบหน้าการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ. โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศธ. เป็นประธาน มีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นกรรมการ อาทิ ดร.พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ศ.วิจารณ์ พานิช ศ.สมชัย ฤชุพันธ์ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ดร.สิริกร มณีรินทร์ และมีคณะที่ปรึกษา ประกอบด้วย ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ดร.มีชัย วีระไวทยะ นายตวง อันทะไชย และนางทิชา ณ นคร โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฎิรูปฯในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ ซึ่งตนจะนำข้อเสนอในการปฏิรูปการศึกษาในภาพรวมของ ศธ.ที่ รมว.ศธ.ให้ไปรวบรวม เสนอต่อที่ประชุม โดยมี 3 เรื่องหลักคือ การปฏิรูปเชิงนโยบาย การ ปฏิรูปการบริหารจัดการ และการปฏิรูปการเรียนรู้ ซึ่ง ในแต่ละเรื่องจะมีรายละเอียดต่างๆรวมทั้งเรื่องของการปรับโครงสร้าง ศธ.ที่จะมีการแยก สกศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
เลขาธิการ สกศ.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในการประชุม ศธ.ที่ผ่านมา ทั้ง 3 องค์กรได้มีการนำเสนอการปรับโครงสร้างต่อที่ประชุม และที่ประชุมได้มอบหมายให้กลับไปจัดทำรายละเอียด หลังจากนี้ สกศ.จะรวบรวมข้อเสนอดังกล่าวเพื่อเตรียมนำเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการปฎิรูปฯต่อไป ทั้งนี้เบื้องต้นกระทรวงเกิดใหม่คงไม่มีหรืออาจจะมีกระทรวงการอุดมศึกษาตามที่ สกอ.เสนอ ซึ่งตนก็ยังไม่แน่ใจ สำหรับในส่วนของ สกศ.มีมุมมองจากภายนอกว่า ขณะนี้แนวทางการพัฒนาการศึกษากับกำลังคนไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง จึงอยากเห็น สกศ.ไปทำหน้าที่ตรงนี้ ส่วนจะไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ ถ้าบทบาทจำเป็น ต้องไปสังกัดสำนักนายกฯก็ต้องไป อย่างไรก็ตาม ใน การประชุมวันที่ 17 ธ.ค.นี้ น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า จากการประชุม ศธ.ได้มีการนำเสนอความคืบหน้าการปฏิรูปการศึกษาและการปรับโครงสร้างที่จะแยก สอศ. สกอ. และ สกศ. โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า สอศ.จะเป็นทบวงการอาชีวศึกษา มีฐานะเป็นทบวงสังกัด ศธ. ส่วน สกศ.และ สกอ.จะแยกออกจาก ศธ. ซึ่งในส่วน ของ สกอ.ได้นำเสนอที่จะเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา แต่ รมว.ศธ.เห็นว่าควรจะกลับไปเป็นทบวงมหาวิทยาลัยตามเดิม.
ที่มา : ไทยรัฐ
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ชงใช้ระบบการศึกษาสร้างความเป็นพลเมือง
ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้ตนรับข้อเสนอทางการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของสภาพัฒนาการเมือง ที่ต้องการส่งเสริมจิตสำนึกความเป็นพลเมือง สิทธิ และหน้าที่ของพลเมืองของเยาวชน โดยสภาพัฒนาการเมืองได้เสนอแนวการจัดการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย 12 แนวทาง ได้แก่
- ให้มีการจัดวางโครงสร้างทางการศึกษา เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบประชาธิปไตย
- จัดทำแผนในการสร้างครู และบุคลากรทางการศึกษา
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนเป็นพื้นที่การฝึกฝนสังคมประชาธิปไตยให้กับทุกคน ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร จนถึงนักการภารโรงให้ได้มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตการคิด และการบริหารจัดการสังคมที่ตนเป็นสมาชิก
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการจัดการศึกษา เพื่อสร้างพลเมืองที่สอดคล้องกับความต้องการของชุนท้องถิ่น
- ส่งเสริมการใช้หลักประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในชุมชนโรงเรียน
- ส่งเสริมให้มีการสอนความรู้ทางการเมืองในระบบการศึกษาอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยของอายุตั้งแต่เด็ก
- ส่งเสริมให้มีการอบรมบ่มเพาะศีลธรรม
- เสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง ศธ. กับสถาบัน และองค์กรต่างๆ ของรัฐ
- สร้างความเป็นพลเมืองทั้งในสถานศึกษาและสถาบันครอบครัว
- ผลิตสื่อ เพื่อการศึกษาและสาธารณะ เผยแพร่แนวคิดการสร้างพลเมืองในวิถีทางประชาธิปไตย
- ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์การสร้างพลเมือง ของศธ. ปี 2553
- ส่งเสริมให้มีการอ่านศึกษารัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นกฎหมายแม่บทที่สำคัญ
“ทางสภาพัฒนาการเมืองเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาหลักสูตรการศึกษา เพื่อสร้างความเป็นพลเมืองในทุกระดับ ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ พร้อมทั้งขอให้ ศธ. นำเสนอแนวทางดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ เพื่อการสร้างพลเมืองในระบบการศึกษา ทั้งนี้จะนำข้อเสนอดังกล่าวรายงานต่อ รมว.ศึกษาธิการ และนายกรัฐมนตรีต่อไป” ปลัด ศธ. กล่าว.
ที่มา : เดลินิวส์
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ก.ค.ศ.ไฟเขียวโยกย้าย 20 ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่าจากการประชุมก.ค.ศ.ที่มีพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นประธานเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ว่าที่ประชุมยังอนุมัติย้ายและบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(ผอ.สพท.) 20 ราย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)เสนอได้แก่ อนุมัติย้ายและแต่งตั้งให้
- นายกิตติพงศ์ พิพัฒน์ศิวพงศ์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต 38 เป็น ผอ.สพม. เขต 39
และอนุมัติบรรจุและแต่งตั้งผอ.สพท.จากรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ 19 ราย ประกอบด้วย
- นายอำนาจ บุญทรง เป็น ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)สระบุรี เขต 1
- นายศักดิ์นิพน สว่างวงศ์ เป็นผอ.สพป.สมุทรปราการ เขต 2
- นายวิญญู สันติภาพวิวัฒนา ผอ.สพป.ลำพูน เขต 1
- นายสง่า ศรีงาม เป็นผอ.สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2
- นายอภินันท์ บุญรอด เป็นผอ.สพป.พะเยา เขต 2
- นายประนอม เชื้อหมอ เป็นผอ.สพป.เชียงราย เขต 2
- นายไพรวัลย์ จันทะนะ เป็น ผอ.สพป.ลำปาง เขต 2
- นายธานินทร์ ชลจิตต์ เป็นผอ.สพป.ชลบุรี เขต 2
- นายภูมิพัทร เรืองแหล่ เป็นผอ.สพป.เลย เขต 3
- นางสุดา สุขอ่ำ เป็น ผอ.สพป.จันทบุรี เขต 2
- นายพรชัย โพคันโย เป็น ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 5
- นายรอง ปัญสังกา เป็นผอ.สพป.แพร่ เขต 2
- นายสุดใจ มอญรัต เป็น ผอ.สพป.กาญจนบุรี เขต 3
- นายวุฒิพล ฉนำกลาง เป็นผอ.สพป. แม่ฮ่องสอน เขต 2
- นายสมรักษ์ ถวาย เป็น ผอ.สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 1
- นายประหยัด สุขขี เป็นผอ.สพป.นราธิวาส เขต 3
- นายสมชาย รองเหลือ เป็น ผอ.สพม.เขต 38
- นายเกรียงพงศ์ ภูมิราช เป็น ผอ.สพม.เขต 9
- นายพะยอม วงษ์พูล ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม. เขต 42
ที่มา : มติชน
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
เปิดรายชื่อ49ว่าที่ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา
นางรัตนา ศรีเหรัญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนในฐานะปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ลงนามในประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เรื่องการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รุ่นที่ 2 ซึ่งมีผู้ผ่านการอบรมและพัฒนา เพื่อรอแต่งตั้งให้เป็น ผอ.สพท.จำนวน 49 ราย ได้แก่
- นายสมรักษ์ ถวาย
- นายวันชาติ บัวสิงห์
- นายภูมิพัทธ เรืองแหล่
- นายเจริญ จำรัสกลาง
- นายพัฒนะ งามสูงเนิน
- นายนิวัฒน์ แก้วเพชร
- นายชูเกียรติ ก่อเกิด
- นายวิญญู สันติภาพวิวัฒนา
- นายยงศักดิ์ เชาวน์วุฒิกุล
- นายธานินทร์ ชลจิตต์
- นายไพศาล ปันแดน
- นายธันวา ดีช่วย
- นายอภิชัย ทำมาน
- นายวุฒิพล ฉนำกลาง
- นายณัฏฐ์พัชร์ ศรีสังข์
- นายสิงห์ โพธิ์งาม
- นายตั้ง อสิพงษ์
- นายไพจิต ไชยฤทธิ์
- นายประหยัด สุขขี
- นายสม พุ่มแก้ว
- นายเกรียงพงศ์ ภูมิราช
- นายสุดใจ มอญรัต
- นายประถม เชื้อหมอ
- นายอำนาจ บุญทรง
- นายบุญชู จันทร์ดำ
- นายพีรพงศ์ สุรเสน
- นายวัลลภ รองพล
- นายบรรพ์ ใสแจ่ม
- นายสะอาด อุสมา
- นางสุดา สุขอ่ำ
- นายสมชาย รองเหลือ
- นายสง่า ศรีราม
- นายพรชัย โพคันโย
- นายภัญญู ภูริศรี
- นายบุญสืบ กลิ่นธรรม
- นายธนัญชัย สายสุด
- นายไพรวัลย์ จันทะนะ
- นายรอง ปัญสังกา
- นายอภินันท์ บุญรอด
- นายศักดิ์นิพน สว่างวงศ์
- นายธีระวัฒน์ วรรณนุช
- นายคำจันทร์ รัตนอุปการ
- นายมรกต กลัดสะอาด
- นายทวีศิลป์ สารแสน
- นายอดิศักดิ์ มุ่งชู
- นายโกศล ฐานะ
- นายอดุลย์ศักดิ์ บุญเอนก
- น.ส.รัตติมา พานิชอนุรักษ์
- นายพยอม วงษ์พูล
” ในขั้นตอนจากนี้ไปจะมีการพิจารณาแต่งตั้งผู้ที่ผ่านการพัฒนาว่าจะให้ดำรงตำแหน่งในเขตพื้นที่การศึกษาใด โดยจะพิจารณาจากตำแหน่งที่ว่างและความจำนงของผู้ผ่านการพัฒนาที่ได้ระบุไว้ จากนั้นจะเสนอรายชื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา (ศธ.)เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบในการประชุมครั้งต่อไป” นางรัตนา กล่าว
ที่มา : เดลินิวส์
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
Our partners from Mexico:
Productos de salud
Carlos Torre